เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิต คันไซที่รัก Ep.1


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิต คันไซที่รัก ✌✌✌ Ep.1

    การรีวิว การเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งแรกนี้เป็นการเดินทางของเมื่อปีที่แล้ว แต่พึ่งได้มีโอกาสในการเขียนรีวิวเป็นครั้งแรก เพราะแอดมินอยากแชร์ประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวของตัวเอง ที่เน้นการเที่ยวเองแบบไม่ใช้ทัวร์และไม่กินหรู อยู่แพง เพราะฉะนั้นในการเดินทางท่องเที่ยวแต่ละที่จึงต้องทำการศึกษาสถานที่ ข้อมูลการเดินทาง ทั้งที่กิน ที่เที่ยว ที่นอน ให้ครบเสร็จสรรพ ดูจากรีวิวต่างๆตามเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างแม่นยำ เพราะแอดไม่ชอบการเดินทางแบบไม่มีแผน ลุยไปแบบไม่รู้ทิศทางแล้วไปหลงสักเท่าไหร่ เพราะรู้สึกเสียเวลาในการเที่ยว 5555 แอดจึงเห็นว่าข้อมูลจากการรีวิวเป็นประโยชน์ต่อนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางด้วยตัวเองมากๆๆๆๆ ล้านตัว แอดจึงหวังว่าข้อมูลที่นำมารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่อยากเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองไม่มากก็น้อย หรือสามารถเดินทางตามแพลนที่แอดเดินทางได้อีกด้วย เขียนมาเยอะละ เริ่มกันเลยดีกว่า!

วัดพระใหญ่โปลิน (Polin Temple) ฮ่องกง


เริ่มการเดินทาง 

แพลนของเราที่วางไว้คือ 7 วัน เดินทางไป-กลับ ก็ 2 วันละ เท่ากับเราได้เที่ยวที่ญี่ปุ่น 5 วันแบบเต็มๆ การท่องเที่ยวของเราเดินทางช่วงปลายเดือน เม.ย. เราเดินทางกันด้วยสายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์ ช่วงที่เราจองนั้นราคาอยู่ที่ 11,000 บาท เป็นฟูลเซอร์วิสรวมน้ำหนักกระเป๋า 23 กก. และอาหาร ซึ่งถือว่าไม่แพง และขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิอีกด้วย ขาไปเครื่องจะแวะพักที่ฮ่องกง 8 ชม. เราจึงถือโอกาสนี้ไปทีเดียวได้เที่ยว 2 ประเทศ 555 
ฮ่องกงคนไทยไม่ต้องทำวีซ่า เราจึงเข้าไปเที่ยวในเมืองรอเวลาได้สบายๆ เราออกเดินทางจากสนามบินตอนประมานตี 3 ไปถึงสนามบินเชก แลป กอก (Chek Lap Kok Airport) ประมาน 8 โมงเช้า เข้าไปล้างหน้า แต่งตัว แต่งหน้ากันในห้องน้ำ 😃😃 ห้องน้ำเขาดีอะ กว้าง สะอาด ที่สำคัญกระจกใหญ่เหมาะกับการแต่งหน้า ฮุฮุ ไม่ใช่แค่เรา ต่างชาติที่มาถึงรอบเช้าแบบเรา ก็ทำแบบเดียวกัน 
สนามบินฮ่องกงตั้งอยู่ที่เกาะลันเตา ที่เที่ยวที่ใกล้ที่สุดคงจะหนีไม่พ้น วัดพระใหญ่โปลิน หรือที่ส่วนมากมักรู้จักกระเช้านองปิง ที่ใช้เดินทางไปที่วัดนั่นละ พวกเราจะต้องกลับมาที่สนามบินภายในเวลา 14.00 น. แอดจึงเลือกเดินทางไปที่นี่ เพราะสะดวกและใกล้ที่สุด ผ่าน ตม. มาแบบสบายๆไม่ถามอะไรสักคำ แต่เราก็เตรียมคำตอบเอาไว้นะ กรณีถ้าเขาเกิดถามขึ้นมาว่าจะไปไหน อย่างไร จะได้ตอบถูก แล้วก็เตรียมตั๋วเครื่องบินไว้ให้เรียบร้อยว่าเรามาแวะ Transit เลยอยากเข้าไปเที่ยวบริเวณใกล้ๆสนามบิน  ปล. การแต่งตัว ควรแต่งกายสุภาพ ดูเป็นนักท่องเที่ยวทั่วไป อย่าแต่งหรูหรา หรือ ดูโอเวอร์เกินไป เพราะ ตม. อาจสงสัยและอาจไม่ให้เข้าเมืองได้ เพราะเขาอาจจะคิดว่าเรามาขายตัววววววว หรือ เป็นพวกลักลอบเข้ามาทำงานเถื่อน

วัดพระใหญ่โปลิน ☂

ออกมาจาก ตม. เราก็ตรงไปที่ Counter ของ Airport Express เพื่อซื้อบัตร Octopus card สามารถใช้เดินทางทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน รถบัส ใช้ซื้อของตามร้านสะดวกซื้อที่รับบัตรได้หมด ราคาบัตรสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 150 HK เป็นมัดจำ 50 และสามารถใช้เงินได้ 100 HK ใช้ไม่หมดนำมาแลกเงินคืนได้ที่ counter ที่เราซื้อมา

ภาพจาก http://www.discoverhongkong.com

เสร็จแล้วเดินไปตามป้าย Bus Terminus ก็จะเจอป้ายรถบัสอยู่หลายสาย เราก็มองหาป้ายรถบัสสาย S1 แล้วไปยืนเข้าคิวรอ เดินขึ้นทางด้านหน้าของรถแล้วก็แตะบัตร Octopus ที่เครื่องข้างคนขับ รถบัสจะเป็นแบบ 2 ชั้น สามารถนั่งที่ชั้นไหนก็ได้ รถก็จะไปสุดทางที่ MTR Tong Chung และ Citygate Outlets เราก็จะลงกันที่นี่ สำหรับใครจะเข้าไปตัวเมืองก็นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินได้จากที่นี่เลย ง่ายยยยยยและสะดวกมากๆ

เลยบันไดเลื่อนทางขึ้นกระเช้านองปิงมาจะเจอทางข้ามถนนไปที่จอดรถบัส

รถบัสสาย S1 นั่งสบาย

หลังจากนั้นก็มองหาป้ายไปกระเช้านองปิง เดินไปตามทางจะเจอทางขึ้นกระเช้าเลย แต่ช่วงที่เราไปกระเช้า ปิด! ปรับปรุง แง่ว พวกเราจึงต้องเปลี่ยนจากการนั่งกระเช้าเดินทางด้วยรถบัสแทน เดินผ่านบันไดเลื่อนทางขึ้นกระเช้าไปทางซ้าย เดินตรงไปและข้ามถนนไปอีกฝั่งจะเจอ Bus Terminal เป็นที่จอดรถบัสเพื่อเดินทางไปที่ต่างๆ เดินหาป้ายรถเมล์สาย 23 พอเจอป้ายจะเขียนไว้เลยว่า Ngong Ping ก็ถูกต้องละ ต่อคิวโลด..... จ่ายด้วย octopus เช่นเดิม รถบัสคันใหญ่นั่งสบาย ใช้เวลาเดินทางประมาน 40 นาที ตอนที่เราไปหมอกหนามากๆ ยิ่งขึ้นสูง ยิ่งมองไม่เห็นอะไร เส้นทางคดโค้ง ไปตามภูเขา นับถือคนขับรถจริงๆ

ถึงแล้ววววว พอมาถึงหมอกถูกลมพัดไปเหลือบางๆ รู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นและละอองฝน เรารีบเดินไปด้านบน เพื่อไปไหว้พระใหญ่กันก่อนที่ฝนจะเทลงมา บันไดสูงพอเอาหอบได้ประมานนึง ยิ่งเดินขึ้น ยิ่งรู้สึกว่าองค์พระใหญ่สมชื่อ...มองจากด้านบนเห็นทิวทัศน์ของภูเขาสลับซับซ้อนผสมเมฆหมอก ถ่ายรูปออกมาเลยไม่ค่อยสวยนัก เพราะท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยหมอกไปซะหมด แล้วสักพักฝนก็เทลงมาลูกใหญ่
 


หลังฝนหยุด ก็ไปเดินเที่ยวเล่นกันที่โซนร้านอาหาร และ ร้านขายของที่ระลึก มีร้านอยู่ประมานนึง แต่สินค้าราคาไม่แพงมาก และน่าซื้อหลายอย่าง พูดแล้วก็จัดไป 1 (ยังไม่ทันจะถึงญี่ปุ่น ก็โดนซะแล้ว) ขากลับป้ายรถเมล์จะอยู่บริเวณแถวโซนนี้ จะมีประตูทางออกไปที่ป้ายรถเมล์ทางซ้าย มองหาป้ายรถบัสสาย 23 เหมือนเดิม แล้วรถก็จะพาเรากลับมาที่ Citygate Outlets


Citygate Outlets ❤

รถบัสสาย 23 พากลับมาลงที่เดิม ถึงเวลาเดินช้อป........ไอ้นั่นก็ Sale ไอ้นี่ก็ Sale ร้านนั้นก็ลด ร้านนี้ก็ลด บางร้าน 70 % เงินในกระเป๋าสั่นระริก ของดีราคาถูกมันเยอะมากกกกก ใครขาช้อปของแบรนด์ราคาถูกกว่าไทยหลายเท่า มาที่นี่เลย เดินวนจนตาลาย เราไม่มีเวลาเดินมากเพราะต้องกลับไปที่สนามบินซะแล้ว สุดท้ายได้รองเท้าแบรนด์ k swiss มา 2 คู่ ราคามันช่างดีงามพันนิดๆ เอง
(แต่โชคดีมากเลยที่ตัดสินใจซื้อ เพราะช่วยชีวิตในการไปเดินที่ญี่ปุ่นมากกกกก ตอนต่อไปจะบอกว่ามันสำคัญยังไง ไอ้รองเท้าเนี่ย)

ภาพจาก http://www.hongkongpackage.net

ถึงเวลาขึ้นเครื่องบินเดินทางต่อไปยังสนามบินคันไซกันแล้ว Let's go 

ติดตามตอนต่อไป เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิต คันไซที่รัก Ep.2


















.

บทความได้รับความนิยม

เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิต คันไซที่รัก Ep.2

เกาะล้าน..ใกล้แค่นี้ วันเดียวก็เที่ยวได้