เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิต คันไซที่รัก Ep.3


จะขึ้นรถไฟที่ญี่ปุ่นอย่างไรนะ ??? 

ตอนที่ 3 นี้ แอดจะมาแนะนำวิธีการขึ้นรถไฟที่ญี่ปุ่นกันค่ะ ว่ามีวิธีการดูอย่างไร จะขึ้นสายไหน ทางไหนให้ถูกทิศทาง ไม่หลงทางกัน


อย่างที่แอดแจ้งไว้ในตอนที่แล้วว่า รถไฟญี่ปุ่นมีความซับซ้อน และมีเส้นทางรถไฟหลายสาย ในสถานีนึงอาจมีสายรถไฟของหลายบริษัทตัดผ่านกันอยู่ สำหรับมือใหม่แล้วอาจจะเป็นกังวลว่าเราจะเที่ยวด้วยตัวเองได้ไหม จะหลงรึเปล่า แอดบอกได้เลยว่า ไม่หลงค่ะ ถ้าเตรียมตัวและศึกษาข้อมูลการเดินทางมาอย่างดี และไม่ต้องกลัวนะสถานีรถไฟที่ญี่ปุ่น 99 % มีภาษาอังกฤษเป็นป้ายบอกทางให้ด้วย

เริ่มต้นเราก็มาดูแผนที่รถไฟในเขตคันไซกันก่อนว่ามีกี่สาย กี่บริษัท กี่เส้นทาง โดยปกติรถไฟแต่ละสายจะมีสีที่เป็นสัญลักษณ์แตกต่างกัน เอาไว้บอกว่า สีนี้ชื่อสายว่าอะไร เดินทางจากที่ไหนไปที่ไหน และทุกๆสายจะมีสีที่ไม่ซ้ำกันเลย เพื่อง่ายต่อการจดจำ 

ภาพจาก https://www.talonjapan.com

 
ภาพจาก https://www.wonderfulpackage.com


ทีนี้พอเรารู้สีแล้ว ก็ต้องรู้ชื่อว่าสีนี้ มีชื่อสายรถไฟว่าอะไร 
ตัวอย่างเช่น รถไฟสายสีแดง มีชื่อว่า Midosuji line (มิโดซุจิ ไลน์) รถไฟสายสีน้ำตาล มีชื่อว่า Sakaisuji line (ซาไกซุจิ ไลน์) เป็นต้น

ตามสถานีรถไฟทุกสถานีที่มีสายรถไฟตัดผ่านมากกว่า 1 สาย จะมีป้ายบอกทางตลอดว่าถ้าจะไปสายนี้ต้องเดินไปทางไหนเพื่อขึ้นรถไฟ เราก็แค่ต้องรู้ว่าเราจะไปรถไฟสายไหน เช่น เราจะไปสายสีแดง ก็มองหาป้ายสัญลักษณ์สีแดง ที่เขียนว่า Midosuji line เราก็เดินตามป้ายนั้นไปเรื่อยๆ แล้วก็จะเจอทางขึ้นรถไฟนั่นเอง


ภาพจาก https://travel98.com

ภาพจาก https://matcha-jp.com



ข้อควรจำ.......ต้องหมั่นสังเกตุป้ายที่สถานีรถไฟเสมอขณะเดินทาง


ปัญหาคือ เอ.... เราจะต้องขึ้นรถไฟฝั่งไหนละ ที่จะถูกต้อง


สิ่งที่สำคัญคือ เราจะต้องรู้ก่อนว่า สถานที่ที่เราจะไป มีรถไฟสายไหนผ่านและมีชื่อสถานีว่าอะไรที่อยู่ใกล้สถานที่นั้นที่สุด เช่น เราจะไปย่านโดทงโบริ รถไฟที่ผ่านจะเป็นสายสีแดง Midosuji line ชื่อสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดคือ Numba station เป็นต้น

พอเรารู้แล้วว่าที่ที่เราจะไป ต้องขึ้นสายไหน ลงสถานีไหน เราก็เอาแผนที่รถไฟกางออกมาดู ว่าต้นสายกับสุดสายรถไฟสายนี้ มีชื่อสถานีว่าอะไร และตอนนี้เราอยู่สถานีอะไร

แอดจะมายกตัวอย่าง สัก 1 ตัวอย่าง ให้ดูกันนะค่ะ

รถไฟสายสีแดง Midosuji line 
สถานีต้นสาย ชื่อ Nakamozu station
สถานีปลายสาย ชื่อ Senri-Chuo station
ตอนนี้เราอยู่ที่สถานีชื่อ Umeda station  และกำลังจะเดินทางไปสถานีชื่อ Numba station

จากแผนที่จะเห็นว่าเราจะต้องขึ้นรถไฟไปทางสถานี Nakamozu เป็นต้น แต่เวลาที่เราดูแผนที่ อย่าดูแค่ชื่อสถานีต้นสาย หรือ ปลายสาย ให้ดูชื่อสถานีอื่นๆ ที่เป็นทางผ่านจากสถานีที่เราอยู่ด้วย เพราะป้ายบอกทางมักจะขึ้นชื่อสถานีใหญ่ๆ เอาไว้ เพื่อให้เรามั่นใจว่าเราขึ้นถูกทาง
พอเราเดินตามป้ายบอกทางแล้วจะเจอทางขึ้นรถไฟ ก็จะมีป้ายแยกออกเป็น 2 ส่วนให้เราเลือกฝั่งว่าจะขึ้นรถไฟฝั่งไหน

ตัวอย่างเช่น จากสถานี Umeda station ที่เราอยู่
ป้ายทางที่ 1 อาจจะเขียนว่า Midosuji line for Numba . Tennoji . Nakamozu
ป้ายทางที่ 2 อาจจะเขียนว่า Midosuji line for Nakatsu . Shin-Osaka . Senri-Chuo

เราก็จะต้องเลือกเดินไปตามป้ายทางที่ 1 เพราะเราจะไป Numba Station

ทีนี้เราก็ขึ้นรถไฟถูกฝั่งกันแล้ว


กรณีต้องต่อรถไฟจากสายหนึ่งไปอีกสายหนึ่ง เราก็ต้องรู้ก่อนว่า สายที่เราจะไปต่อนั้นเชื่อมกับสถานีรถไฟชื่อว่าอะไร เราก็ไปลงที่สถานีนั้น แล้วมองหาป้ายชื่อสายรถไฟสายนั้นที่เราจะต่อ 

อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างการเดินทางของระบบรถไฟใต้ดินในโอซาก้าเท่านั้น ยังมีรถไฟสายเอกชน ที่จะเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟใต้ดินบางสถานีเพื่อเดินทางออกไปจังหวัดอื่นๆในเขตคันไซ ก็จะมีชื่อเรียกของสายแตกต่างกันออกไป เช่น

Hankyu Railway 
Hanshin Electric Railway
Keihan  Main Line
Kintetsu kyoto line
Kintetsu nara line


ที่ยกตัวอย่างมาเป็นชื่อรถไฟเอกชนแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น แต่ละสายรถไฟเอกชน ก็จะเดินทางไปที่ต่างๆแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเดินทางไปที่ไหน เช่น รถไฟสาย Kintetsu Nara ก็จะเป็นรถไฟที่เดินทางไปที่จังหวัดนารา เป็นต้น ในแผนที่รถไฟ มักจะมีบอกว่ารถไฟเอกชนสายนี้เชื่อมต่อกับรถไฟใต้ดินที่สถานีไหน สามารถดาวโหลดแผนที่รถไฟได้ตามเว็บไซต์ต่างๆมากมาย


ภาพจาก http://www.ferry-sunflower.co.jp

จากภาพจะเห็นว่ารถไฟเอกชนสาย Hanshin Line จะเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟใต้ดิน Umeda Station 
Kintetsu Line จะเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟใต้ดิน Numba Station เป็นต้น


การเดินทางด้วยรถไฟ เราจะต้องรู้ก่อนว่าสถานที่ที่เราจะไปนั้นคือที่ไหน สถานีรถไฟสถานีไหนอยู่ใกล้ที่ที่เราจะไปมากที่สุด แล้วจึงมาดูแผนที่รถไฟ ว่าตอนนี้เราอยู่ตรงไหน จะขึ้นรถไฟสายไหนไปให้ถึงจุดที่เราจะไป สิ่งสำคัญ สำหรับแอดคิดว่าการวางแผนสถานที่ๆเราจะไปเอาไว้ตั้งแต่ก่อนเดินทาง จะทำให้เราวางแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้น แม่นยำ และไม่หลงทาง เพราะเราจะรู้ว่าที่แรกที่เราจะไป ต้องขึ้นรถไฟสายไหน แล้วจากที่แรกไปที่ที่ 2 จะไปรถไฟสายไหน ลงสถานีอะไร การเดินทางจะมีขั้นตอนที่ชัดเจน ช่วยลดความกังวลในการเดินทางได้ไม่มากก็น้อยค่ะ

ตอนต่อไปแอดจะมาบอกข้อมูลเรื่องการจองที่พัก การใช้ Wi-fi และการนอนที่สนามบินคันไซ ในคืนแรกที่เราเดินทางไปเหยียบประเทศญี่ปุ่นกันค่ะ หากชอบข้อมูลที่แอดเขียน สามารถแสดงความคิดเห็น สอบถาม ช่วยแชร์หรือกดติดตามบล็อคของแอดกันด้วยนะค่ะ 

บทความได้รับความนิยม

เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิต คันไซที่รัก Ep.1

เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิต คันไซที่รัก Ep.2

เกาะล้าน..ใกล้แค่นี้ วันเดียวก็เที่ยวได้