เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิต คันไซที่รัก Ep.2
ออกเดินทางสู่สนามบินคันไซ ✈✈✈ แพลนการเที่ยวและวิธีการเดินทาง
ระหว่างที่เรากำลังบินจากฮ่องกงไปสนามบินคันไซ.....แอดจะมาพูดถึงแพลนที่วางไว้ว่าในแต่ละวันพวกเราจะเดินทางไปที่ใดบ้าง และเดินทางด้วยวิธีใดบ้าง ตามมาเลย.....
แพลน 7 วัน 6 คืนที่วางเอาไว้ มีดังนี้
วันที่ 1 : คือวันที่เรากำลังเดินทางแวะฮ่องกงเพื่อเปลี่ยนเครื่อง (ได้เที่ยวในฮ่องกงไม่ไกลจากสนามบิน) ถึงสนามบินคันไซตามเวลาท้องถิ่นประมาน 3 ทุ่ม คืนนี้พวกเราจะนอนกันที่สนามบิน เพราะกว่าจะเข้าเมืองก็คงจะดึกมาก ไม่คุ้มกับค่าที่พัก จึงนอนกันที่สนามบินกันซะเลย
วันที่ 2 : จังหวัดเฮียวโงะ ชมปราสาทฮิเมจิ สวนโคโคเอง ย่านช้อปปิ้งถนนมิยุคิโดริ,ชมวิวเมืองท่าที่โกเบ
วันที่ 3 : เกียวโตตะวันออก (ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ, แต่งชุดกิโมโน,วัดคิโยะมิซุ(วัดน้ำใส), ย่านฮิกาชิยาม่า, ศาลเจ้ายาซากะ, ย่านเกอิชา)
วันที่ 4 : เกียวโตวัดทองคินคะคุจิและแถบอาราชิยาม่า (สะพานโทเง็ตสึเคียว, ศาลเจ้าโนโนมิยะ, สวนป่าไผ่)
วันที่ 5 : โอซาก้า (ศาลเจ้าสุมิโยชิ, พิพิธภัณฑ์บ้านเรือนโบราณ Osaka Museum of Housing and Living, ปราสาทโอซาก้า, ย่านชินไซบาชิ, ย่านโดทงโบริ)
วันที่ 6 : ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอเจแปน (Universal Studio Japan)
วันที่ 7 : เดินทางกลับ
วันที่ 6 : ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอเจแปน (Universal Studio Japan)
วันที่ 7 : เดินทางกลับ
การเดินทางของพวกเราค่อนข้างแน่นพอสมควรในแต่ละวัน ผู้อ่านสามารถปรับการเดินทางให้เหมาะสมกับผู้ที่ร่วมเดินทางของตัวเองได้
สำหรับการเดินทางนั้น แอดใช้การเดินทางด้วยรถไฟเป็นส่วนมาก เพราะสะดวกและไม่ยุ่งยากเท่าไรนัก แล้วรถไฟของญี่ปุ่นเนี่ยยังมีบัตรแบบต่างๆให้นักท่องเที่ยวได้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของทริปที่ตัวเองวางเอาไว้หลากหลายรูปแบบ ที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมากขึ้นอีกด้วย
เนื่องจากตั๋วรถไฟที่ใช้เดินทางในโอซาก้าและแถบคันไซนั้นมีมากมายเหลือเกิน แอดจึงจะไม่พูดถึงตั๋วรถไฟว่ามีรูปแบบไหนบ้าง อย่างไร เพราะผู้อ่านสามารถหาข้อมูลได้ตามเว็บไซต์ต่างๆมากมาย รีวิวนี้แอดจึงจะบอกแค่ตั๋วรถไฟที่แอดเลือกใช้ในการเดินทางทริปนี้ก็แล้วกันนะค่ะ
ตั๋วรถไฟสำหรับแพลนการเดินทางทริปนี้
1. บัตร Kansai Thru pass แบบ 3 วัน
2. บัตร Osaka Amazing pass แบบ 1 วัน
3. บัตร Icoca card (บัตร IC)
มาดูกันว่าทั้ง 3 แบบนี้ แอดเอามาใช้ในการเดินทางกับแพลนที่วางเอาไว้อย่างไรบ้าง
บัตร Kansai Thru pass
ภาพจาก https://th.his-bkk.com
บัตรแบบเหมาจ่ายรถไฟ ใช้โดยสารรถไฟเอกชนแบบไม่จำกัดเที่ยวภายในเวลาที่กำหนดในภูมิภาคคันไซ แล้วยังใช้บริการรถไฟใต้ดิน รถราง และรถประจำทางในภูมิภาคคันไซได้เกือบทุกสาย ยกเว้น! รถไฟสายของ JR และ ชินคันเซน สามารถใช้เดินทางได้ทั้งเมืองโอซาก้า, เฮียวโงะ, โกเบ, เกียวโต, นารา, วากายาม่า และ ชิกะ แล้วก็ยังมีส่วนลดค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆอีกเยอะแยะมากมาย
สำหรับแอด ใช้บัตร KTP เพื่อเดินทางไปเที่ยวในแพลนวันที่ 2-4 นั่นเอง เพราะต้องใช้รถไฟเอกชนในการเดินทาง (ไปเฮียวโงะ โกเบ และเกียวโต) แล้วยังใช้เดินทางรถไฟฟ้าขาเข้าจากสนามบินได้ด้วย แอดซื้อบัตรแบบ 3 วัน **ซึ่งบัตรจะต้องใช้เดินทางต่อเนื่องกัน
ความคิดเห็นของแอดแบบส่วนตั๋วส่วนตัว คิดว่าบัตรนี้ค่อนข้างคุ้มค่า ราคาไม่แพง แล้วยังเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวได้มากกว่ารถไฟของสาย JR
ราคา : pass 2 day 4,000 เยน/ pass 3 day 5,200 เยน (ราคาผู้ใหญ่)
บัตร Osaka Amazing pass
ภาพจาก https://chillchilljapan.com
ใช้สำหรับโดยสารรถไฟฟ้า รถบัส ในเมืองโอซาก้า โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งภายในเวลาที่กำหนด และยังมีส่วนลดค่าเข้าสถานที่ต่างๆ และหลายๆสถานที่สามารถใช้บัตรนี้เข้า ฟรี อีกด้วย (ซึ่งสถานที่ๆพวกเราไปก็ใช้บัตรนี้เข้า ฟรี เหมือนกัน อิอิ)
แอดใช้บัตรนี้ในการเที่ยวเฉพาะในโอซาก้าแบบเต็มวัน ซึ่งอยู่ในแพลนเที่ยววันที่ 5
สำหรับใครที่จะเที่ยวเฉพาะในเมืองโอซาก้าใช้บัตรนี้ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เพราะใช้ขึ้นรถไฟฟ้าแบบไม่จำกัด จะหลงขึ้นผิดสักกี่เที่ยวก็ไม่มีปัญหา แล้วได้เข้าสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญหลายๆที่ฟรีๆอีกด้วย
ราคา : pass 1 day 2,500 เยน/ pass 2 day 3,300 เยน
บัตร Icoca card (บัตร IC)
ภาพจาก https://www.baicheng.com
บัตรแบบเติมเงินของบริษัท JR West บัตรนี้จึงสามารถใช้ขึ้นรถไฟของสาย JR ได้ สามารถใช้ได้กับรถไฟใต้ดิน รถไฟเอกชน และรถบัสในแถบคันไซได้หมด แล้วยังใช้แทนเงินสดในร้านค้าที่ร่วมรายการได้อีกด้วย สามารถเติมเงินใส่บัตรจากตู้อัตโนมัติของสถานีรถไฟฟ้าได้ทุกสถานี
สรุปก็คือ เป็นบัตรแบบรายเที่ยวนั่นเอง แต่แค่เราเติมเงินเอาไว้ในบัตร ซึ่งต้องเติมขั้นต่ำ 1000 เยน ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาไปกดซื้อบัตรรถไฟที่ตู้เป็นครั้งๆ แล้วใช้ซื้อของตามร้านสะดวกซื้อต่างๆ ทำให้ชีวิตเราง่ายและสะดวกขึ้น ถ้าใช้เงินไม่หมดสามารถนำบัตรไปแลกคืนได้ที่เค้าท์เตอร์ของ JR West
แอดใช้บัตรนี้ในแพลนการเที่ยววันที่ 6 เพราะว่าเราอยู่ใน USJ กันทั้งวันไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนและใช้ขึ้นรถไฟไปสนามบินตอนขากลับ
สำหรับใครที่มีแผนการเดินทางไปเที่ยวที่ต่างๆไม่มากนัก ไม่ได้ไปหลายสถานที่แบบเรา แอดแนะนำให้ใช้ IC Card จะคุ้มค่าและประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าจ้า
ราคา : ซื้อบัตรครั้งแรก 2,000 เยน แบ่งเป็นค่ามัดจำ 500 เยน ยอดเงินสำหรับใช้งานได้ 1,500 เยน
เอาละแอดก็บอกแพลนการท่องเที่ยว และตั๋วต่างๆที่ใช้ในการเดินทางของพวกเรากันแล้ว ตอนหน้าแอดจะมาแนะนำการขึ้นรถไฟกันว่าเราจะมีวิธีการดูอย่างไร ว่าเราจะต้องขึ้นรถไฟสายไหน ขึ้นทางไหนแล้วจะถูกต้องไม่หลง เพราะรถไฟที่ญี่ปุ่นเนี่ยขึ้นชื่อเรื่องความซับซ้อนและมีรถไฟหลายสายตัดผ่านกันมากที่สุด นักท่องเที่ยวมือใหม่หลายๆท่านอาจเป็นกังวลว่าถ้าไปเที่ยวด้วยตัวเองจะยากไหม จะหลงไหม แอดจะมาบอกเทคนิคการขึ้นรถไฟง่ายๆกันค่ะ