เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิต คันไซที่รัก Ep.4

การจองที่พัก การใช้ Wi-fi และการนอนค้างคืนที่สนามบินคันไซ 

ในส่วนนี้แอดจะรีวิวเฉพาะที่แอดใช้บริการอยู่บ่อยๆเท่านั้นนะค่ะ เอาไว้เป็นตัวเลือกทางหนึ่งให้กับผู้อ่าน การรีวิวสินค้าและบริการทั้งหมดที่แอดใช้นั้น แอดมินไม่ได้ค่าจ้างการรีวิวสินค้าและบริการแต่อย่างใด แต่ที่นำมารีวิวเป็นเพราะว่าแอดใช้บริการบ่อยและไว้ใจในการใช้สินค้าเท่านั้นเอง

การจองที่พัก

โดยปกติแล้วเวลาที่แอดเดินทางท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นต่างประเทศหรือในประเทศ แอดมักจะใช้บริการการจองที่พักจากเว็บไซต์ www.booking.com อยู่เป็นประจำค่ะ

ภาพจาก http://www.9mot.com

ทำไมแอดถึงเลือกใช้การจองที่พักจากบริษัทนี้ เพราะทุกๆครั้งที่ผ่านมาการจองที่พักผ่านเว็บไซต์นี้ไม่เคยมีปัญหาและไม่เคยโดนเทมาก่อน เว็บไซต์มีบริการการจองที่พักหลากหลายประเทศ หลากหลายราคา หลากหลายรูปแบบให้เราเลือก แล้วที่สำคัญยังไม่ต้องจ่ายเงินทันที สามารถจ่ายเงินได้กับทางที่พักโดยตรงในวันที่เช็คอินได้เลย (ลดปัญหาเวลายังไม่มีเงินจ่าย แต่อยากสำรองที่พักเอาไว้ก่อน เพราะกลัวว่าเวลาใกล้เดินทางแล้วจะไม่มีที่พัก) 

โดยบางที่พักอาจจะต้องใช้บัตรเครดิตในการสำรองเอาไว้ (แต่ยังไม่เก็บเงินเพียงแค่กันเงินไว้กรณีที่เราไม่ยกเลิกห้องพัก แล้วก็ไม่เข้าเช็คอิน ที่พักก็จะเก็บเงินผ่านบัตรเครดิตของเราไป) บางที่พักสามารถจองโดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิตในการจองก็ได้ ซึ่งทางเว็บไซต์เขาจะมีเขียนเอาไว้ให้ชัดเจน ว่าที่พักไหนไม่ต้องใช้บัตรเครดิตในการจอง ที่เริ่ดที่สุดคือ หลายๆที่พักสามารถยกเลิกการจองที่พัก ฟรี! ก่อนเข้าเช็คอินประมาน 3-7 วัน เช่น สมมติว่าเราเข้าเช็คอินวันที่ 12 พ.ค. 61 เราสามารถยกเลิกการจองฟรีได้ถึงวันที่ 10 พ.ค. 61 เป็นต้น แต่ถ้าเราไม่ยกเลิกการจองหลังวันที่ 10 พ.ค. เราก็จะต้องเสียเงิน แม้ว่าจะไม่เข้าเช็คอินก็ตาม

แล้วที่โอเครเลยสำหรับแอดคือ ราคาที่ทางเว็บไซต์สรุปมาให้เราตอนทำการจอง เป็นราคาเบ็ดเสร็จที่รวมทุกอย่างแล้ว ไม่มีมาเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมทีหลังอีก ราคาสรุปจะมีบอกทั้งเป็นเงินบาทและสกุลเงินของประเทศนั้น (กรณีที่จองที่พักต่างประเทศ) มันทำให้เรารู้ว่าเราจะต้องจ่ายเงินเป็นราคาเท่าไหร่ในสกุลเงินเขา ไม่ต้องมาคำนวณเอง

เว็บยังมีช่องทางในการเขียนคำร้องต่างๆถึงที่พัก ซึ่งทุกๆครั้งที่จองที่พักแต่ละที่ก็ตอบกลับมาตลอดเวลาที่เราสอบถามอะไร เวลาเช็คอิน เราก็แค่ปริ้นท์เอกสารการจองที่ทางเว็บไซต์ส่งมาให้ทางอีเมล์ แล้วก็เอาเอกสารยื่นให้กับที่พักและชำระเงินค่าที่พักกับพนักงานได้เลย สะดวกกกกกกกกสุด  ถือว่าเป็นตัวเลือกหนึ่งในการจองที่พักที่ดีเลยทีเดียว ป.ล. แอดมินไม่ได้ค่าจ้างในการรีวิวแต่อย่างใด แต่เป็นผู้ที่ใช้บริการจริงๆก็เท่านั้น

การใช้ Wi-fi

สำหรับการเที่ยวประเทศญี่ปุ่น แอดมินเลือกรูปแบบการใช้ไวไฟแบบ Pocket wi-fi และมักจะทำการจองจากบริษัท Samurai wi-fi บ่อยๆ โดยเฉพาะไปทำการจองในงานไทยเที่ยวไทย จะได้ราคาในการใช้งานถูกกว่าราคาเช่าปกติมากๆ ทำไมถึงใช้ของบริษัทนี้ เพราะที่ผ่านมาเวลาที่แอดเอาไปใช้ที่ญี่ปุ่น ไม่เคยมีปัญหาเรื่องสัญญาณเลย เร็ว แรง แบตอยู่ได้นาน เครื่องนึงสามารถแชร์สัญญาณในการใช้ได้ถึง 10 คน/เครื่องเลยนะ แต่ในความเป็นจริงแอดอยากแนะนำว่า 1 เครื่อง ควรใช้ไม่เกิน 3 คน เพราะสัญญาณจะเสถียรและมั่นคงกว่าการแชร์หลายคน  สำหรับนักท่องเที่ยวที่เที่ยวด้วยตัวเองแบบเรานั้น Internet ถือว่ามีความสำคัญมากๆ สัญญาณ wi-fi ที่ดีจึงมีความจำเป็น 

ภาพจาก http://www.wayofbackpacker.com

Samurai wi-fi ใช้งานง่าย พกพาสะดวก วิธีการรับเครื่องก็สะดวก มีเค้าท์เตอร์รับสินค้าทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง เราแค่เอาใบที่ทำการจองไว้ หรือ ถ้าไปซื้อที่งานไทยเที่ยวไทยจะได้ใบจองมาในรูปแบบของคูปอง ไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ที่เค้าท์เตอร์ในวันที่เราไปเช็คอินที่สนามบินได้เลย วันที่เราเดินทางกลับมา ก็เอาเครื่องไปคืนที่เค้าท์เตอร์เช่นเดิม ทางบริษัทยังมีบริการจัดส่งเครื่องไปที่บ้านและส่งเครื่องคืนทางไปรษณีย์ให้ด้วยนะ แต่แอดยังไม่เคยใช้บริการนี้

แนะนำว่าไปเช่าเครื่องที่งานไทยเที่ยวไทย จะมีราคาโปรโมชั่นที่คุ้มมากๆ แอดเคยได้ในราคา 100 บาท/วันเอง 

ลองใช้บริการดูนะค่ะ ป.ล. แอดมินไม่ได้ค่าจ้างในการรีวิวแต่อย่างใด แต่เป็นผู้ที่ใช้บริการจริงๆก็เท่านั้น

การนอนค้างคืนที่สนามบินคันไซ

คืนแรกที่พวกเราลงเครื่องมาถึงสนามบินคันไซก็เป็นเวลา 21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น กว่าจะผ่านต.ม. รับประเป๋าเดินทางออกมาก็เป็นเวลาประมานเกือบ 5 ทุ่มซะแล้ว คืนนี้พวกเราจึงตัดสินใจนอนค้างคืนที่สนามบิน เพื่อประหยัดค่าที่พักไป 1 คืน ทำไมเราถึงตัดสินใจนอนค้างที่สนามบิน เพราะว่ามันดีนั่นเอง ที่สนามบินคันไซจะมีจุดให้นักเดินทางพักผ่อนอยู่หลายจุด แต่ที่แอดจะมาแนะนำมีชื่อว่า Aero Plaza 

ภาพจาก https://pantip.com/topic/34436302

Aero Plaza เป็นที่พักที่กว้าง สะดวก และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นอย่างครบครัน มีร้าน Lawson และ Berger King ที่เปิดตลอด 24 ชม. เอาไว้ให้นักเดินทางรอบดึก

พอเรารับกระเป๋าแล้วเดินออกมา ตอนนี้เราจะอยู่กันที่ Terminal 1 ให้เราขึ้นไปที่ชั้น 2 แล้วเดินข้ามทางเชื่อมไปที่ Terminal 2  ก็จะเจอทางเข้าที่เขียนว่า Aero Plaza เดินผ่านประตูตรงเข้าไปจนสุดทาง โซนพักผ่อนจะอยู่ทางซ้ายมือ ที่นอนมีให้เลือกทั้งแบบเก้าอี้ และเบาะขนาดเตียงนอนไซต์เล็ก

ที่สำคัญเขามีผ้าห่มให้ยืมฟรีด้วย แต่มีจำนวนแค่ 60 ผืนเท่านั้น จะต้องไปลงชื่อยืมคนต่อคน ไม่สามารถเอาแทนกันได้ เขาจะเปิดให้ยืมในเวลา 23.00 น. หมดแล้วหมดเลย และจะต้องคืนผ้าห่มในเวลา 06.00 โมงเช้า 

ผ้าห่มเขาดีมากนะ นุ่ม อุ่น สบาย 

พวกเรารีบวิ่งตรงดิ่งไปที่ Aero Plaza เพราะกลัวจะยืมผ้าห่มไม่ทัน ไปถึงยังมีคนมาไม่มาก แต่เบาะเตียงนอนขนาดเล็กก็มีคนจองไปหมดแล้ว เราเลยไปจองล็อคระหว่างเก้าอี้มา 1 แถว แล้วนั่งกันที่พื้นโดยมีเก้าอี้ขนาบข้างซ้ายขวา คืนนี้เราจะนอนกันตรงช่องว่างตรงกลางกัน ทริปนี้พวกเรามากัน 5 คน ล็อคนี้เลยพอดีสำหรับพวกเรา เสร็จแล้วก็ไปต่อคิวยืมผ้าห่มกัน ผ้าห่มผืนใหญ่มาก 1 ผืนสามารถห่มได้ 2 คนเลยนะ 

Aero Plaza มีห้องน้ำให้ใช้ฟรี แต่ถ้าใครจะอาบน้ำก็มีบริการห้องอาบน้ำหยอดเหรียญ ใน 1 ห้องจะมีโซนแต่งตัวและโซนอาบน้ำ มีกระจก มีตระกร้าวางผ้าทำให้เราสะดวกในการแต่งตัวมากขึ้น แล้วยังมีแชมพู สบู่ ให้ใช้ฟรีๆ สนนราคาในการอาบครั้งละ 500 เยน อาบได้นาน 15 นาที (สามารถเข้าไปด้วยกันได้นะ อย่างแอดเข้าไป 2 คนกับแฟน ผลัดกันอาบ คนนึงรอโซนแต่งตัว คนนึงอาบน้ำ เวลายังใช้ไม่หมดเลย ประหยัดไปอีก) ถ้าไม่มีผ้าเช็ดตัว เขามีตู้หยอดเหรียญซื้อผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้าให้ สะดวกมาก

ที่นี่ยังมีจุดที่เสียบปลั๊กหลายแห่ง มี wi-fi ให้ใช้ฟรี เอาเป็นว่าสะดวกพอสำหรับนักท่องเที่ยวที่แวะมาพัก รอต่อเครื่อง ขึ้นเครื่องเช้ามากๆหรือมาไฟลท์ดึกแบบพวกเรา

โดยรวม ที่นี่ปลอดภัยมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ พักฟรี มีผ้าห่มให้ยืมฟรี เป็นตัวช่วยในการประหยัดงบได้  แต่ไม่เหมาะกับคนที่ชอบความสงบหรือต้องนอนแบบที่มืดๆ เพราะที่นี่คนจะเดินเข้าเดินออก พูดคุยกันอยู่ตลอดเวลา และไม่มีปิดไฟ ไฟจะสว่างทั้งวันทั้งคืน 

วีดีโอจาก https://www.youtube.com/watch?v=07FFuorPcMA

ตอนหน้า แอดจะพาทุกคนไปเที่ยวกันที่จังหวัดเฮียวโงะ ไปชมปราสาทนกกระเรียนขาวฮิเมจิ และชมวิวเมืองท่าโกเบ กันค่ะ ฝากติดตามบล็อค กดแชร์ หรือกดไลค์เพจFacebook กันด้วยนะค่ะ เพื่อไม่พลาดรีวิวข้อมูลการท่องเที่ยวอื่นๆกันค่ะ